ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอย่างนี้
ธุรกิจจะต้องใช้งบประมาณการตลาดอย่างจำกัดและได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
หรือที่เรียกว่า ROI ที่ดีที่สุด
หนึ่งในกลยุทธ์ที่มักจะนำมาใช้ในภาวะการณ์เช่นนี้ก็คือ การตลาดกับฐานข้อมูลลูกค้าของเรา
ลูกค้าของเราในที่นี่รวมไปถึง ลูกค้าที่ซื้อสินค้าและบริการของเรา
ลูกค้ามุ่งหวังที่ติดต่อกัน ลูกค้ามุ่งหวังที่สนใจในสินค้าและบริการของเรา เป็นต้น
ดังนั้นไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเล็กหรือใหญ่ จะเป็นร้านอาหาร องค์กรไม่หวังผลกำไร
หรือ ธุรกิจข้ามชาติก็ตาม คุณก็คงจะต้องการบริหารฐานข้อมูลลูกค้าของคุณให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน
หลายบริษัทก็ยังไม่มีแนวทางในการรวบรวมข้อมูลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม วันนี้ผมขอคุยเรื่องวิธีสร้างฐานข้อมูลลูกต้าของคุณก่อน
คุณจะต้องหาเครื่องมือในการจัดเก็บข้อมูลสำคัญของลูกค้าของคุณด้วย ข้อมูลสำคัญที่คุณไม่ควรพลาดและสำคัญยิ่งกว่าชื่อ-นามสกุล เสียอีก นั้นก็คือข้อมูลสำหรับการติดต่อสื่อสาร
เช่น อีเมล์ เบอร์มือถือ หรือที่อยู่ ก็ตาม เพราะถ้าคุณไม่มีข้อมูลนี้
คุณก็ไม่สามารถที่จะติดต่อพวกเขาได้อยู่ดี ข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ เช่น วันเกิด ความชอบ
กิจกรรมที่สนใจ เป็นต้น สามารถรวบรวมภายหลังได้ เมื่อมีการติดต่อบ่อยครั้งเรื่อยๆ
แต่คุณจะต้องสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าของคุณด้วย
พวกเขาถึงจะยอมให้ข้อมูลส่วนตัวของพวกเขามากขึ้น
สร้างสรรค์ที่ 1 จัดกิจกรรมจับรางวัลทุกเดือน วิธีนี้ง่ายที่สุด เพียงแค่คุณจับผู้โชคดีอย่างน้อยเดือนละครั้งสำหรับผู้ให้ข้อมูลในแต่ละเดือน
ที่เห็นบ่อยๆ ก็เห็นจะเป็นร้านอาหารที่ตั้งกล่องรับนามบัตร แล้วจับนามบัตรที่โชคดีประจำสัปดาห์เพื่อรับอาหารเช้าฟรี
เป็นต้น
สร้างสรรค์ที่ 2 จัดแข่งขันล่ารายชื่อ คุณอาจจะเริ่มจากการจัดแข่งขันระหว่างพนักงาน
หรืออาสาสมัครในการรวบรวมรายชื่อและอีเมล์ จากลูกค้า ลูกค้ามุ่งหวังหรืออื่นๆ
แล้วได้รับรางวัลสำหรับผู้ชนะ
วิธีนี้คุณอาจจะต้องแนะนำเทคนิคในการได้มาซื่งรายชื่อและอีเมล์ด้วย มิฉะนั้น
ลูกค้าจะเกิดความรู้สึกรำคาญได้
§
ขอนามบัตรจากลูกค้าทุกครั้งที่พบ
ถ้าพวกเขาต้องการรับ Newsletter จากเรา
§
ขอนามบัตร
หรือเขียนชื่อและที่อยู่จากลูกค้าทุกครั้งที่ซื้อสินค้าและบริการ ณ จุดชำระเงิน (POS) เป็นต้น
§
สำหรับลูกค้าที่ออนไลน์อยู่แล้ว
ให้ถามลูกค้ามาลงทะเบียนในแบบฟอร์มรับสมัครสมาชิก
เพื่อรับสิทธิพิเศษทุกครั้งที่สนทนา ไม่ว่าจะใน Facebook หรือ Twitter
§
แชร์เนื้อหาหรือบทความดีๆ
ใน Social Media แล้วเชิญชวนให้สมัครสมาชิก
ถ้าหากพวกเขาต้องการรับข่าวสารประเภทเดียวกันผ่านทางอีเมล์หรืออื่นๆ
บริษัทจะต้องออกแบบแบบฟอร์มให้กับพนักงานหรืออาสาสมัครแต่ละคน
เพื่อแยกแยะสมาชิกที่ลงทะเบียนของแต่ละคนด้วย
สร้างสรรค์ที่ 3 ลงทะเบียนรับ Newsletter ให้ลูกค้า เมื่อใดก็ตามที่คุณพบลูกค้า
แนะนำให้คุณลงทะเบียนพวกเขาเป็นสมาชิกรับ Newsletter จากคุณทันที
คุณจะต้องมีแอปพลิเคชั่นและสมาร์ทโฟนในการลงทะเบียนขณะนั้น
จากนั้นระบบจะต้องส่งอีเมล์ฉบับแรกไปถึงลูกค้า เพื่อการแนะนำ Newsletter ประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับ แต่อย่าลืม เปิดช่องทางให้ลูกค้าสามารถยกเลิกได้ทันที
หากเขาไม่ยินดีที่จะรับอีเมล์ของคุณต่อไป วิธีการนี้เรียกว่า Opt-out
หัวใจสำคัญอยู่ที่ความเร็วในการลงทะเบียนของคุณ
หากคุณทิ้งเวลาไว้นานเกินไป ลูกค้าอาจจะลืมคุณไปแล้วก็ได้
และอยู่ที่ความประทับใจในอีเมล์ฉบับแรกของคุณด้วย
ข้อความและการนำเสนอในอีเมล์ฉบับแรกจะต้องสร้างความประทับใจและทำให้เกิดความต้องการที่จะรับอีเมล์ต่อไปในอนาคตด้วย
เทคนิคนี้นำไปใช้กับงานสัมนนา
อีเวนท์ต่างๆ ได้ โดยนำเทคนิคนี้ไปร่วมกับสร้างสรรค์ที่ 2 ก็ได้
เพื่อให้เกิดการแข่งขันและผลตอบแทนให้กับพนักงาน
สร้างสรรค์ที่ 4 สร้างกิจกรรมให้แชร์ใน Social Network
วิธีนี้ง่ายๆ
เพียงแค่แชร์แบบฟอร์มลงทะเบียนใน Social Network ของคุณ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter หรือ YouTube ก็ตาม แล้วให้เพื่อนๆ
บอกต่อเกี่ยวกับประโยชน์ที่จะได้รับจากการรับ Newsletter ของคุณ ตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจก็คงจะเป็นกิจกรรม
“เพื่อนแนะนำเพื่อน” ของ Future Park ใน
Facebook.com/FutureParkSociety
เหล่านี้เป็นเทคนิคสร้างสรรค์ส่วนหนึ่งเท่านั้น
คุณลองประชุมระดมสมิงภยในผ่ายการตลาดหรือพนักงานกันดูนะครับ
ว่าจะมีเทคนิคสร้างสรรค์อะไรนอกเหนือจากนี้บ้าง รับประกันได้ครับว่า
วันหนึ่งคุณจะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากฐานข้อมูลลูกค้าเหล่านี้
นาวิก นำเสียง
eCampaign101 Email & SMS Marketer