วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

กลยุทธ์การตลาดแบบหนึ่ง-ต่อ-หนึ่ง

แต่ เดิมนักการตลาดมักจะใช้กลยุทธ์การตลาดแบบมวลชน (Mass Marketing) อาทิ การลงโฆษณาเครื่องสำอางในโทรทัศน์หรือวิทยุ เป็นต้น ในการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งบางครั้งข้อความที่เราสื่อออกไปอาจจะไม่เข้าถึงลูกค้าในกลุ่มที่ต้องการ ได้ แต่ต้นทุนการตลาดต่อรายอาจจะต่ำกว่า แต่ต่อมาการตลาดแบบเฉพาะกลุ่ม (Targeted Marketing) อาทิ การลงโฆษณาเครื่องสำอางสำหรับผู้หญิงทำงานในนิตยสารผู้หญิงทำงาน เป็นต้น ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะได้ประสิทธิภาพของสื่อที่ดีกว่า เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจนและวัดผลได้ง่ายกว่าด้วย
วัน นี้คงจะไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า การตลาดแบบเดิมข้างต้นเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความ ต้องการของลูกค้าและสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่งได้ กลยุทธ์การตลาดสมัยใหม่ได้เข้ามาสู่การใช้เทคโนโลยีการสื่อสารมากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตด้วยแล้ว ที่สามารถเก็บข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า วิเคราะห์และติดต่อสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้นอกเหนือจาก 4 P ซึ่งได้แก่ สินค้า ราคา สถานที่และโปรโมชั่นแล้ว ยังมีอีกหนึ่ง P ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการกำหนดกลยุทธ์ นั่นก็คือ Personalization หรือ ตามรายบุคคล โดยกลยุทธ์นี้สามารถกำหนดกลยุทธ์ที่หลากหลายตามลักษณะของลูกค้าแต่ละรายได้ นักการตลาดบางคนเรียกว่า การตลาดแบบหนึ่ง-ต่อ-หนึ่ง (1-to-1 Marketing)

หนึ่ง ในกลยุทธ์การตลาดแบบหนึ่ง-ต่อ-หนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นั่นก็คือการตลาดด้วยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เพราะว่าผู้ใช้อินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่จะใช้งานจดหมายอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุด จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ก็ยังคงความเป็น Killer App อยู่ตราบจนกระทั่งปัจจุบันนี้ โดยวัตถุประสงค์ก็เพื่อส่งข้อความเชิงรุกไปยังลูกค้าที่สมัครใจ หากมองกันง่ายๆ ของความสำเร็จในการทำการตลาดแบบนี้ก็คือ คุณจะต้องรู้ว่าใครคือผู้สมัครใจและข้อความเชิงรุกนั้นควรจะเป็นอย่างไร
เหล่านี้คือบางตัวแปรที่จะมีผลต่อความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดแบบหนึ่ง-ต่อ-หนึ่งด้วยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
  1.  รายชื่อจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ รายชื่อจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่คุณจะส่งไปจะต้องมีความสมบรูณ์ของข้อมูลส่วน ตัว คุณคงไม่อยากที่จะส่งข้อความของคุณผิดกลุ่มเป้าหมายแน่ ดังนั้น ฐานข้อมูลของคุณจะต้องปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยเสมอและคำนึงถึงข้อมูลสำคัญ ของลูกค้าที่คุณจะต้องมีด้วย อาทิ อายุ อาชีพ ความสนใจ เป็นต้น ที่จะต้องสัมพันธ์กับกลยุทธ์การตลาดของคุณด้วย
  2. เบ็ดล่อ หรือรางวัลล่อใจ แน่นอนว่าการส่งข้อความจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไปยังลูกค้า คุณจำเป็นที่จะต้องหาเบ็ดล่อให้ดึงดูดความสนใจมาร่วมกิจกรรมที่คุณจัดเตรียม ไว้ ไม่ว่าจะเป็นเงินรางวัลหรือของรางวัลก็ได้ ตัวอย่างข้อความอาทิเช่น “โอกาสเดียวของคุณที่จะมีโอกาสได้รับรางวัลพักร้อน เดือนเมษายนนี้” ของเว็บไซต์เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เป็นต้น บางทีเบ็ดล่อก็ไม่จำเป็นต้องเป็นของรางวัลเสมอไปก็ได้
  3. ความคิดสร้างสรรค์ นอก เหนือจากการใช้เบ็ดล่อแล้ว ความคิดสร้างสรรค์ของเนื้อหาก็มีความสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นข้อความ หรือรูปภาพที่นำมาประกอบเองก็ตาม ข้อความจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งออกไปจะต้องมีความกระชับ ได้ใจความ เรียบง่ายและที่สำคัญจะต้องดึงดูดความสนใจ การใช้เทคนิคภาพเคลื่อนไหว หรือ Rich Media ก็เป็นวิธีที่จะดึงดูดได้มากทีเดียว กลยุทธ์ในการส่งต่อจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ก็เป็นอีกวีธีที่นิยมกันมาก หรือที่เรียกว่า Viral Marketing
  4.  นโยบายความเป็นส่วนตัวที่ชัดเจน นักการ ตลาดให้ความสำคัญอันมากต่อข้อความและรางวัลล่อ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากและช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม มากขึ้นคือ นโยบายความเป็นส่วนตัว คุณอาจจะระบุไว้บนเว็บไซต์ของคุณแล้ว แต่นั่นอาจจะไม่เพียงพอที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้รับจดหมายอิเล็กทรอ นิคส์ โดยเฉพาะผู้ที่จะมาลงทะเบียนกับเว็บไซต์คุณ คุณอาจจะต้องระบุให้ชัดเจนลงในข้อความจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่คุณส่งด้วย ตัวอย่างข้อความที่ใช้กันบ่อย “บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนตัวของคุณ เพื่อการปรับปรุงเว็บไซต์ของเราเท่านั้น บริษัทจะไม่ทำการขาย ให้เช่า หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลของคุณให้แก่บุคคลที่สามอย่างเด็ดขาด ”
ผู้แต่ง : นาวิก นำเสียง
บริษัท ซันเด โซลูชันส์​ จำกัด
www.sundae.co.th 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น