ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระแสของสังคมออนไลน์ หรือ Social Network อย่าง Hi5 Facebook และ Twitter มาแรงมากจนทำให้นักการตลาดส่วนใหญ่ให้น้ำหนักกับ Social Media มากขึ้น จนลืมไปว่ายังมีสื่อออนไลน์อื่นๆ ที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่า และในความเป็นจริง สื่อออนไลน์อย่าง Social Media ก็ไม่ได้ให้ผลตอบแทนการลงทุนที่สูงที่สุด เมื่อเทียบกับสื่อออนไลน์ด้วยกัน
จากงานวิจัยของ Direct Marketing Association ได้ข้อสรุปว่า
การตลาดอีเมลสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 43.62 ดอลลาร์ ต่อการลงทุนหนึ่งดอลลาร์
ในปี พ.ศ. 2552 ซึ่งสูงกว่าสื่อทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสื่อออนไลน์
และสื่อออปไลน์
อีเมลมีการใช้งานมานานๆ กว่า 40 ปี และยังคงได้รับความนิยมอยู่ ทั้งๆ
ที่มีสื่อออนไลน์มากมาย ทั้งที่เกิดใหม่และเก่า
จนหลายคนอาจจะลืมการตลาดด้วยอีเมลไปแล้ว
มาดูสาเหตุที่ทำให้อีเมลยังได้รับนิยมสูงอยู่
และเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจาก...
1. ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคุ้นเคยกับการใช้งานอีเมล และยังคงใช้อีเมลอยู่ทุกวัน
2. อีเมลสามารถใช้ได้กับทุกช่วงอายุ ต่างกับสื่ออื่นๆ อย่าง SMS หรือ Social Media ที่เน้นเฉพาะกลุ่ม 20-35 เป็นส่วนใหญ่
3. สื่ออีเมลมีต้นทุนที่ต่ำๆ มากกว่า เมื่อเทียบกับสื่ออย่าง Direct Mail หรือโฆษณา
4. สื่ออีเมลสามารถสร้างแคมเปญการตลาดได้ง่ายกว่า เร็วกว่า จึงตอบสนองความยืดหยุ่นต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ดีกว่าสื่ออื่นๆ
5. สื่ออีเมลสามารถนำเสนอเนื้อหาแบบส่วนบุคคล หรือ Personalization
ได้ อาทิเช่น ทักทายด้วยชื่อของผู้รับ
กำหนดโปรโมชั่นตามพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ เป็นต้น
ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
คุณเห็นด้วยกับความจริงข้างบนหรือไม่
ล่าสุดจากผลการสำรวจของ eMarketer.com
กับผู้บริหารระดับสูงทั่วโลกกว่า 1,057 ราย ในหัวข้อ แนวโน้มการตลาดในปี
พ.ศ. 2553 โดยสูงสุด ร้อยละ 69
วางแผนที่จะลงทุนในสื่อการตลาดอีเมล์รองลงมา ร้อยละ 59
วางแผนที่จะลงทุนในสื่อสังคมออนไลน์ และร้อยละ 42 วางแผนที่จะใช้สื่อ
Search Engine ในปี พ.ศ. 2553
จะเห็นได้ว่าสื่อการตลาดอีเมล
ถูกมองว่าเป็นสื่อที่จะร้อนแรงที่สุดในปีนี้
โดยผู้บริหารให้ความเห็นตรงกันว่า
เพราะสื่ออีเมลให้ผลตอบแทนการลงทุนที่สูงกว่า
ที่สำคัญ มากกว่าร้อยละ 80
มีแนวโน้มผสมผสานสื่อสังคมออนไลน์กับอีเมลเข้าด้วยกัน โดยร้อยละ 27
ได้ลงมือปฏิบัติไปแล้ว
ด้วยการอาศัยพฤติกรรมของผู้บริโภคในสังคมออนไลน์แล้วสื่อสารผ่านทางอีเมล
ด้วยเนื้อหาและโปรโมชั่นที่ต่างกัน
การตลาดอีเมลยังถือว่าเป็นสื่อการตลาดที่ไม่มีวันตายจริงๆ
เพียงแต่ว่ารูปแบบในการนำเสนอ
และการใช้งานอาจจะแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ในขณะนั้น
ในปี พ.ศ. 2553 นักการตลาดฟันธงกันว่าการตลาดอีเมล
จะต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพของสมาชิกในฐานข้อมูลมากขึ้น
มากกว่าเน้นปริมาณสมาชิก
จะต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้พฤติกรรมของสมาชิกมากขึ้น อาทิเช่น
สถิติการอ่านอีเมล การคลิกอีเมล หัวข้อของลิงค์ที่คลิก เป็นต้น
เพื่อปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นในอนาคต
จะต้องให้ความสำคัญกับสมาชิกที่ยังไม่เคยคลิกบทความ (Article Click) เลย
ให้มาคลิกให้มากขึ้น ด้วยการทดสอบเนื้อหา
โปรโมชั่นต่างๆ จะต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อหาให้มากขึ้น
ด้วยการทดสอบแบบ A/B Split Test
ซึ่งจะได้เนื้อหาที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด และสุดท้าย
จะต้องมีระบบการส่งอีเมลแบบอัตโนมัติ การตอบรับอัตโนมัติ (Autoresponder)
อาทิเช่น การตอบรับทันที เมื่อสมาชิกสมัครเป็นสมาชิก
การตอบรับทันทีเมื่อสมาชิกยกเลิกการเป็นสมาชิก เป็นต้น หรือ ระบบ Trigger
อาทิเช่น ส่งอีเมลแคมเปญใหม่เมื่อสมาชิกคลิกบทความเฉพาะ เป็นต้น
นักการตลาดสามารถเพิ่มความสัมพันธ์กับลูกค้า เพิ่มคุณภาพของฐานข้อมูลและอื่นๆ อีกมากมายกับการตลาดอีเมล
อย่าให้กระแส Web 2.0 หรือ Social Media มาสร้างความไขว้เขว
คุณจะต้องเข้าใจวัตถุประสงค์ในแต่ละสื่อและผสมผสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการตลาด
ผู้แต่ง : นาวิก นำเสียง
บริษัท ซันเด โซลูชันส์ จำกัด
www.sundae.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น