วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

บริหารที่อยู่อีเมล์ของลูกค้า

คงจะ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าผ่านสื่ออีเมล์ ดังนั้น การรวบรวมรายชื่อลูกค้าพร้อมกับที่อยู่อีเมล์ของลูกค้าจึงเป็นอีกกลยุทธ์ หนึ่งที่นักการตลาดและนักขายหลายๆ รายใช้กัน จากงานวิจัยได้รายงานว่าธุรกิจทั่วไปจะเก็บรวบรวมที่อยู่อีเมล์ของลูกค้าได้ ไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนลูกค้าทั้งหมดที่มีอยู่ แน่นอนว่าก็เก็บรวบรวมที่อยู่อีเมล์ของลูกค้านั้นยังใหม่อยู่ หลายๆ รายยังไม่ทราบเลยด้วยซ้ำว่าจะหาที่อยู่อีเมล์ของลูกค้าได้อย่างไร จะจัดเก็บได้อย่างไร และสุดท้ายจะใช้ประโยชน์กับมันได้อย่างไร ลองกลยุทธ์ที่ผมจะแนะนำนี้ดูนะครับ

เริ่มจากการกำหนดเป้าหมายของ จำนวนที่อยู่อีเมล์ที่คุณจะรวบรวม แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะรวบรวมที่อยู่อีเมล์ของลูกค้าและกลุ่มเป้า หมายได้ทั้งหมด เพราะในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่ลูกค้าทุกรายจะมีที่อยู่อีเมล์ ลูกค้าในบางธุรกิจอาจจะไม่ใช้อีเมล์ในการติดต่อเลยด้วยซ้ำไป อย่างในสหรัฐฯ มีเพียงร้อยละ 50 ของประชากรที่มีที่อยู่อีเมล์เป็นของตนเอง จึงไม่แปลกเลยที่คุณจะตั้งเป้าหมายเพียงร้อยละ 30-60 ของจำนวนลูกค้าทั้งหมด อย่าลืมด้วยว่าที่อยู่อีเมล์เหล่านี้คุณจะต้องได้รับการอนุญาติจากลูกค้า ด้วย มิฉะนั้น คุณก็เข้าข่ายของการสแปม (Spam) หรือ ละเมินสิทธิส่วนบุคคลได้ (Privacy) 
 
กลยุทธ์ในการรวบรวมที่อยู่อีเมล์ได้เร็วที่สุดคือการใช้บริการเช่าที่อยู่อีเมล์ วิธี นี้คุณจะได้จำนวนที่อยู่อีเมล์ตามเป้าหมายของคุณได้ง่ายและก็ควบคุมค่าใช้ จ่ายได้ โดยเฉลี่ยแล้ว ร้อยละ 5-20 จะตอบรับเป็นลูกค้าของคุณหลังจากส่งอีเมล์ทั้งหมด ดังนั้น คุณก็คำนวณได้แล้วว่าจะต้องส่งอีเมล์ที่จำนวนเท่าไร เพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย ต้นทุนต่อการส่งที่อยู่อีเมล์จะประมาณ 2-20 บาทต่อหนึ่งที่อยู่อีเมล์ ค่าใช้จ่ายนี้จะขึ้นอยู่กับคุณภาพและรายละเอียดของอีเมล์ที่คุณต้องการ หลายๆ เว็บไซต์ได้ให้บริการเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องตรวจสอบให้ดีว่าที่อยู่อีเมล์ของเว็บไซต์เหล่านี้ได้มาอย่างถูก ต้องหรือเปล่า ที่อยู่อีเมล์เหล่านี้จะต้องได้รับอนุญาติด้วยเช่นกัน มิฉะนั้น คุณจะได้รับแต่เพียงอีเมล์ขยะเป็นจำนวนมาก คุณต้องอ่านนโยบายของแต่ละเว็บไซต์ ก่อนที่คุณจะส่งรายชื่ออีเมล์เหล่านี้ คุณจะต้องมีข้อความให้ผู้รับสามารถที่จะยกเลิกการรับ (Opt-out option) จากคุณด้วย   
 
กลยุทธ์ต่อมาคือคุณจะต้องหาเครื่องมือรวบรวมรายชื่ออีเมล์ของ คุณ วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือใช้โปรแกรม MS Outlook หรือโปรแกรมอีเมล์อื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณมีที่อยู่อีเมล์เป็นจำนวนมากๆ การบริหารด้วยโปรแกรมอีเมล์ทั่วไปอาจจะไม่สะดวก เพราะประสิทธิภาพในการบริหารและส่งอาจจะด้อยลงไป นอกเหนือจากการเก็บรวบรวมแล้ว คุณจะต้องคำนึงวิธีการที่ลูกค้าสามารถติดต่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของ ตนเองได้ด้วย มิฉะนั้น คุณก็จะมีแต่ที่อยู่อีเมล์ที่ไม่ได้ใช้ (Inactive) เป็นจำนวนมากในอนาคต สุดท้าย เครื่องมือนี้จะต้องสามารถส่งอีเมล์และจัดการแคมเปญการส่งอีเมล์ไปยังลูกค้า ของคุณได้อีกด้วย มิใช่เรื่องง่ายเลยที่จะส่งอีเมล์จำนวนมากๆ ด้วยโปรแกรมอีเมล์ทั่วไป ตัวอย่าง เว็บไซต์ที่มีโซลูชั่นในการบริหารที่อยู่อีเมล์ของคุณ เช่น www.ecampaign101.com
 
คราวนี้คุณจะได้จำนวนของที่อยู่อีเมล์พอสมควรแล้ว นอกเหนือจากนี้แล้ว คุณอาจจะรับสมัครสมาชิกหรือรับลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ของคุณเอง และการจัดเก็บรายชื่อลูกค้าพร้อมที่อยู่อีเมล์จากการจัดกิจกรรมต่างๆ จากใบสมัครหรือจากการโทรศัพท์เข้ามา คุณจะต้องไม่ลืมที่จะส่งอีเมล์ยืนยันการเป็นสมาชิกด้วย ถึงแม้ว่าคุณจะได้รับที่อยู่อีเมล์เหล่านี้จากกิจกรรม (Offline activities) ลูกค้าจะยินดีรับอีเมล์ทักทายของคุณและจะยินดีด้วยกับอีเมล์ที่คุณส่งไปหา อย่างสม่ำเสมอด้วย
 
สุดท้าย การรักษาฐานลูกค้าและที่อยู่อีเมล์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คุณควรจะไตร่ตรองอย่างรอบครอบทุกครั้งที่ส่งอีเมล์ไปหาลูกค้า ถ้าแบ่งกลุ่มลูกค้าได้ด้วยจะยิ่งดี เพราะคุณสามารถส่งข้อความได้อย่างถูกต้องมากขึ้น
 
เริ่ม ลงมือรวบรวมที่อยู่อีเมล์ ณ วันนี้ เพราะว่าข้อมูลอีเมล์เหล่านี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างยิ่งในอนาคตในการ ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด
 
ผู้แต่ง : นาวิก นำเสียง
บริษัท ซันเด โซลูชันส์​ จำกัด
www.sundae.co.th 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น